ที่มา:https://www.youtube.com/watch?v=SZy2mZKQ-Nk
![]() |
ที่มา:http://namcha.blogspot.com |
เมืองเชียงแสนเป็นเมืองประวัติศาสตร์
จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อยู่มากมายหลายที่ที่มีความสำคัญมากในทางประวัติศาสตร์
มีความสวยงามตามแบบศิลปะล้านนาที่มีความเก่าแก่มาก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากเนื่องจากมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน
มีภูเขารายล้อมอยู่มากมาย สภาพของธรรมชาติก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์มีป่าไม้ แม่น้ำ
ลำธาร และสัตว์ป่าให้ได้พบเห็นอยู่
จึงทำให้เมืองเชียงแสนเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายหลายแห่ง
สถานที่ท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
ที่มา:http://www.wiangcs.go.th/travel_detail.php?id=14 |
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงแสน
เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากบริเวณเมืองโบราณเชียงแสน แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง แสดงเรื่องประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐาน
และวัฒนธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปูนปั้นจากวัดป่าสัก พระพุทธรูปศิลปะล้านนา
จารึก เครื่องถ้วยล้านนา ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับโบราณสถาน
และโบราณวัตถุสำคัญที่พบในเมืองโบราณเชียงแสน และที่อื่น ส่วนที่ 3 จัดแสดงเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชนแถบลุ่มแม่น้ำโขง
ทั้งชาวไทใหญ่ ไทลื้อ และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน
เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 -16.00 น.
ทุกวันพุธ-อาทิตย์เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชมคนไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท โทร. 0 5377 7102 และเยื้องพิพิธภัณฑ์จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ให้บริการข้อมูลเมืองโบราณเชียงแสน
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
ที่มา:http://www.chiangrai-tour.com |
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
สร้างโดยพระเจ้าแสนภูเมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 19 โบราณสถานประกอบด้วย
เจดีย์ประธานทรงระฆังแบบล้านนา เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงแสน
นอกจากนี้ยังมีพระวิหารที่เก่ามากซึ่งพังทลายเกือบหมดแล้ว และเจดีย์รายแบบต่างๆ 4
องค์ที่หน้าประตูวัดและภายในวัดปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่มากๆ
ให้พื้นที่นี้ร่มรื่นมากๆ มีจอดรถที่ลานจอดรถอันกว้างขวางมีร้านค้า เครื่องดื่ม
ของที่ระลึกหลายร้าน
หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
ที่มา:http://panitamay1811.blogspot.com |
ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ
250 ไร่
ห่างจากอำเภอเชียงแสน 10 กิโลเมตร หอฝิ่นฯ
ล้อมรอบด้วยสวนอันสวยงามเป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่น
คุณประโยชน์ และมหันตภัยของยาเสพติดต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
โดยการใช้มัลติมีเดียทันสมัยในการนำเสนอเนื้อหา
เป็นการเรียนรู้ผ่านความบันเทิงในเวลาเดียวกัน
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้เสด็จมายังอำเภอเชียงแสน
บริเวณรอบแม่น้ำโขง ที่ชายแดนทั้งสามประเทศมาบรรจบกัน และมีป้ายชื่อว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” สมเด็จย่าจึงทรงรับสั่งว่า
ชื่อสามเหลี่ยมทองคำนี้ทำลายภาพพจน์และชื่อเสียงของประเทศ
คนไทยน่าจะแก้ไขเรื่องนี้ จึงส่งผลสืบเนื่องให้เกิด “หอฝิ่น
อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ” ขึ้น
เพื่อเป็นสถานที่ให้ความรู้เรื่องฝิ่นและยาเสพติดต่างๆ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนต่อต้านและห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้
ยังมีห้องอาหาร ห้องประชุม และห้องพักภายในเกรทเธอร์ แม่โขง ลอดจ์
บริเวณรอบหอฝิ่นฯ บริการ นักท่องเที่ยว เหมาะสำหรับการจัดประชุม การสัมมนา
หรือการพักผ่อนริมแม่น้ำโขง
ที่ตั้งอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ หมู่ 1. บ้านสบรวก ต. เวียง อ. เชียงแสน จ. เชียงราย
โทร (053) 784-444-6 , แฟกซ์ (053) 652-133 , อัตราค่าเข้าชมคนไทย 200 บาท / ชาวต่างชาติ 300 บาท / ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 50 บาท / เด็กอายุ 12 – 18 ปี 50 บาท
/ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่ายวันและเวลาดำเนินการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 8.30 – 16.00 น. (เวลา 16.00 น. เป็นเวลาขายบัตรรอบสุดท้าย
)ระยะเวลาสำหรับการชมนิทรรศการโดยเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง
สามเหลี่ยมทองคำ
ที่มา:http://www.thetrippacker.com |
อยู่ห่างจากอำเภอแม่สาย
๒๘ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๑๒๙๐ เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน
หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า
บริเวณนี้เคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ
ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงดงามโดยเฉพาะยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอกด้านฝั่งพม่า
และลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว
และพม่า ค่าเช่าเรือประมาณ ๓๐๐–๔๐๐ บาท นั่งได้ ๖ คน
ถ้าต้องการนั่งชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไปไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ
ก็สามารถหาเช่าเรือได้ แต่ค่าเรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล
นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา
คุนหมิง สามารถติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดเชียงรายได้
หากต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้างของสามเหลี่ยมทองคำบริเวณสบรวกและเพื่อนบ้าน
ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง
วัดพระธาตุผาเงา
ที่มา:http:// |
อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนไปตามเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ
ประมาณ 4 กม.
อยู่ตรงข้ามโรงเรียนสบคำ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีเนื้อที่ 143 ไร่ มีเจดีย์ทรงระฆังขนาดเล็กตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ วิหารปัจจุบันสร้างทับซากวิหารเดิม
บนยอดเขาข้างหลังวัด
เป็นที่ตั้งของพระบรมพุทธนิมิตรเจดีย์ที่มองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ
และมีบ่อปลาที่ตรงกลางบ่อจะมีหอพระไตรปิฎกตั้งอยู่
บ่อปลาก็จะมีปลาที่ให้นักท่องเที่ยวได้เอาอาหารให้ปลา
ทะเลสาบเชียงแสน
ที่มา:http://www.bloggang.com |
ทะเลสาบเชียงแสนหรือเขตห้ามล่าสัตว์หนองบงคาย
มีชื่อเสียงในหมู่นักดูนกเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำและนกทุ่งจำนวนมาก ในฤดูหนาวจะมีนกอพยพจากต่างถิ่นจำนวนมหาศาล
รวมทั้งนกพันธุ์หายากมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีกิจกรรมให้ได้สนุกเพลิดเพลินกันทั้งครอบครัว
หรือหาถ้าหากมาเป็นคู่ก็จะโรแมนติกเหลือประมาณ ทั้งผืนน้ำ ผืนป่า
และม่านหมอกในฤดูหนาว
การเดินทางเริ่มจากสถานีขนส่งจังหวัดเชียงรายให้เส้นทางหมายเลข
1 เมื่อถึงทางแยกไปอำเภอเชียงแสนระยะทาง 33
กิโลเมตรอให้ไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1016
อำเภอแม่จัน-อำเภอเชียงแสน ถึงกิโลเมตรที่ 27 ณ บ้านกู่เต้า
เปลี่ยนไปใช้เส้นทาง ร.พ.ช. สายบ้านกู่เต้า-ดอยงาม ขับประมาณ 2 กโลเมตร จะถึงเขตห้ามล่าสัตว์หนองบงคาย
จะมีป้ายขนาดใหญ่หน้าทางเข้าสังเกตง่าย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเขตห้ามล่าสัตว์หนองบงคาย(ทะเลสาบเชียงแสน)
หมู่ 3
ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โทร.0857166549
อ้างอิง http://www.touronthai.com
http://thai.tourismthailand.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น